กัญชาออแกนิค กัญชา ปลดล็อคหรือจะกลับไปล็อคอีกครั้ง ก็ต้องดูกันยาว ๆ
กัญชาออแกนิค หลังจากที่มีร่างกฎหมายเรื่องกัญชาถูกปลดล็อคออกจากประเภทของกลุ่มยาเสพติดเรียบร้อย เชื่อว่าผู้ที่มีความสนใจด้านนี้ หรือหลายคนที่ต้องการปลูกกัญชาคงจะรู้สึกดีใจไม่น้อย ที่ต่อจากนี้สามารถปลูกกัญชาไว้ใช้ประกอบอาหาร เพื่อเพิ่มรสชาติได้อย่างถูกกฎหมาย พร้อมทั้งมีไว้ในบ้านได้โดยไม่ต้องโดนจับใช่ไหมล่ะ และแน่นอนว่ากฎหมายข้อนี้ยังมีข้อถกเถียงต่างๆมากมาย เนื่องจากยังไม่มีกฎหมายลูกออกมาควบคุมอย่างชัดเจน ทำให้มีบางประเด็นที่คนไทยทุกคนยังไม่สามารถใช้กัญชาได้เสรีร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ทุกคนก็สามารถเรียนรู้และทำความรู้จักกับสายพันธุ์กัญชาที่ได้รับความนิยมที่สุดตอนนี้เอาไว้ก่อนได้ ซึ่งจะมีตัวไหนบ้างนั้น ติดตามพร้อมกันได้ในบทความนี้
กัญชาออแกนิค 5 สายพันธุ์ที่ที่ชื่อเสียงที่สุดในโลก
ในดอกกัญชานั้นเมื่อทำการสกัดเอาสารที่สำคัญออกมา จะได้สารสกัดด้วยกัน 2 ส่วน โดยมีการแยกไปใช้ประโยชน์ดังต่อไปนี้
- ช่อและดอกกัญชาที่จะใช้ในทางการแพทย์ได้นั้น ไม่สามารถนำมาใช้สดๆได้เลยทันที แต่ต้องผ่านกระบวนการสกัดเพื่อให้ได้สารสกัดส่วนแรกที่ต้องการออกมาเสียก่อนโดยสารนั้นมีชื่อว่า CBD (Cannabidiol) บริสุทธิ์ ซึ่งเป็นสารที่มี HTC ที่ทำให้คนเกิดความเคลิบเคลิ้มต่ำไม่ถึง 01 เปอร์เซ็นต์ โดยจะใช้สารตัวนี้ในการวิเคราะห์และทดลองเกี่ยวกับตัวยาต่างๆที่เกี่ยวข้อง รวมถึงนำไปพัฒนาเป็นตัวยาที่มีความสำคัญเพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วยในอนาคต กัญชาออแกนิคมีผลต่อระบบประสาท
- สารสกัดกัญชาในส่วนที่สอง จะถูกนำมาใช้เป็นสารสกัดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มี CBD (Cannabidiol) เป็นส่วนประกอบหลัก โดยตัวนี้จะมีค่า THC ไม่เกิน 2 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งใช้เป็นตัวยา และผลิตภัณฑ์สมุนไพร เพราะว่าสารตัวนี้มีสรรพคุณทางยานั่นเอง สามารถรักษาอาการของโรคได้หลายโรค ไม่ว่าจะเป็นอาการลมชัก พาร์กินสัน เป็นต้น โดยหลังจากที่นำไปใช้ผู้ใช้จะไม่เกิดอาการต่อจิตประสาท แม้ว่าจะมีการใช้บ่อยๆก็ไม่ทำให้เกิดการเสพติดเหมือนยาเสพติด
เห็นถึงความมหัศจรรย์ของพืชชนิดนี้แล้วก็อดทึ่งไม่ได้ หลังจากที่มีการเปิดการค้าได้อย่างเสรีในกัญชา เชื่อว่าหลายๆคนเล็งเห็นประโยชน์ที่มีอยู่แน่นอน และไม่เพียงแค่ดอกและใบจะมีประโยชน์เพียงแค่อย่างเดียวนะคะ แต่ว่าส่วนอื่นๆของต้นกัญชาก็ยังเป็นประโยชน์ที่สามารถนำไปทำเงินได้อีก ดังข้อมูลที่น่าสนใจในหัวข้อต่อไป
กัญชาออแกนิค 5 สายพันธุ์ที่ที่ชื่อเสียงที่สุดในโลก
กัญชามีหลากหลายสายพันธุ์ แต่ที่เรานำเสนอคือ สายพันธุ์ที่ดีที่สุด มีสารTHC เยอะที่สุด มีผลต่อระบบประสาททำให้ มีอาการ เมาเคลิ้ม ตาลาย ปากแห้ง มึนหัว ตามที่เราได้รับสาร THC เข้าไปในปริมาณของสารที่ได้รับเข้าไป แต่ไม่เป็นอันตรายถ้าไม่มีอาการแพ้
- สายพันธุ์ Godfather OG เป็นกัญชาที่เรียกได้ว่ามีว่ามีความรุนแรงมากที่สุดโลกโลก จากนิตยาสารชื่อดังจาก High Times เนื่องจากว่ามีสารที่เรียกทำให้เคลิบเคลิ้ม (THC) มากกว่า 34 % เลยล่ะ เป็นสายพันธุ์กัญชาที่มาจากประเทศอินเดีย แม้ว่ากัญชาชนิดนี้จะได้ชื่อว่าเป็นกัญชาที่แรงที่สุด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นกัญชาที่ดีที่สุดในโลกนะ
- สายพันธุ์ Chemdawg เป็นกัญชาที่มีค่า THC สูงที่สุดถึง 13% สำหรับกัญชาสายพันธุ์นี้เชื่อกันว่ามีต้นกำเนิดจากสายพันธ์ที่มาจากประเทศไทยของเรา ควบคู่กับสายพันธุ์ที่มาจากประเทศเนปาล
- สายพันธุ์ Irish Cream อีกชนิดของกัญชาที่ค่า THC สูงถึง 17% ซึ่งบางคนอาจะเรียกสายพันธุ์นี้ว่า Carefree เนื่องจากว่าฤทธิ์ของกัญชาตัวนี้ทำให้ผู้ที่ได้รับสารนอนหลับสบาย ช่วยในเรื่องของการผ่อนคลายในระหว่างที่นอนหลับอยู่
- สายพันธุ์ White Tahoe Cookies เป็นสายพันธุ์กัญชาที่ได้รับความนิยมอย่างมาก แถบของประเทศสหรัฐฯ โดยมีค่าของสารที่ทำให้รู้สึกเคลิบเคลิ้ม หรือ THC สูง 17% เช่นกันกับสายพันธุ์ก่อนหน้านี้
- สายพันธุ์ Strawberry Banana เป็นกัญชาที่เคยได้รับรางวัลกัญชาที่แรงที่สุดในโลกซ้ำถึง 3 ปีซ้อน จากนิตยสารชื่อดังอย่าง High Times เพราะว่ามีสาร THC สูงถึง 26 ถึง 28% เลยทีเดียว และสาเหตุที่สายพันธุ์นี้มีชื่อที่ดูน่ารักน่ากิน นั่นก็มีสาเหตุมาจากกลิ่นของสายพันธุ์นี้เมื่อถูกสูบเข้าไป และพ่นกลิ่นควันออกมานั่นเอง
อยากปลูกกัญชาต้องทำอย่างไร กัญชาน่ารู้
การปลูกแนะนำเป็นสายพันธุ์ไทยดูแลง่าย เหมาะกับอากาศบ้านเรา เช่น พันธุ์หางกระรอกหาง่าย ราคาค่อนข้างถูก เหมาะกับมือใหม่หัดปลูก เน้นใช้ในครัวเรือน นำใบมาประกอบอาหาร กัญชาน่ารู้ เกี่ยวกับการปลูก
เริ่มเพาะเมล็ด
- นำเมล็ดมา ห่อด้วยทิชชู่ พรมน้ำให้ชุ่ม
- ใส่กระปุก ปิดฝา เก็บไว้ในที่มืดไม่ให้โดนแสงแดด
- 2-3 วัน ให้เช็กว่ามีรากงอกรึยัง ถ้ามีเป็นอันใช้ได้
เพาะต้นอ่อน
- ใช้ พีทมอส เพราะสามารถเติบโตได้ดี เมล็ดมีโอกาสโตได้เยอะ
- บางคนจะผสม พีทมอส เวอร์มิคูลไลท์ เพอร์ไลท์ ส่วนมากจะเป็น 70% 10% 10%
- นำเมล็ดฝังในดินไม่ต้องลึกมาก
- ปลูกในที่ร่มสัก 2-3 วัน พรมน้ำให้ชุ่ม (อย่าแฉะ)
- พอวันที่ 3 ให้เอาออกไปรับแดด
- ประมาณ 10 วันเตรียมย้ายลงกระถาง
ปลูกต้นกัญชาลงกระถาง
- เริ่มจากกระถางเล็กก่อน เช่น 6 นิ้ว
- เตรียมดิน ง่ายสุดคือ หน้าดิน ปุ๋ยหมัก 1 ต่อ 1 ผสมกัน
- หรือหาซื้อดินสำหรับปลูกกัญชามาใช้
- นำต้นมาใส่ อย่ารดน้ำมากเกินไป
ประโยชน์ของสาร THC
- ลดการคลื่นไส้จากยาเคมีบำบัด
- ลดอาการปวดเรื้อรัง
- ลดอาการเบื่ออาหารในผู้ป่วยบางกลุ่ม (ต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์)
- ลดการเกร็งในผู้ป่วยโรคทางระบบประสาทบางชนิด ได้แก่ Multiple sclerosis
โทษของสาร THC
- ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท
- เมาหลอนประสาท
- เสพติดและเพิ่มอัตราการฆ่าตัวตาย
- เกิดภาวะเป็นพิษเมื่อได้รับเป็นปริมาณสูง
ประโยชน์ของสาร CBD
ประโยชน์ของสาร CBD ที่มีงานวิจัยรองรับ คือ ใช้รักษาโรคลมชักในเด็กเฉพาะกลุ่มอาการ Lennox-Gastaut และ Dravet
ส่วนประโยชน์ต่อร่างกายและสมองที่มีแนวโน้มจะเป็นไปได้ แต่ยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาวิจัย มีดังนี้
- บรรเทาอาการวิตกกังวล
- ลดความเสี่ยงสมองฝ่อ
- รักษาต้อหินที่ดวงตา
- บรรเทาอาการหอบหืด
- ลดอาการปวดเกร็งกล้ามเนื้อ
- รักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง
- ช่วยควบคุมอาการลมชักบางชนิด
ข้อดี ข้อเสียของกัญชา
ข้อดีของกัญชา
- หากคุณกำลังเบื่ออาหาร มีความอยากอาหารน้อยลง การรับประทานกันชาสามารถช่วยให้คุณมีความอยากอาหารมากขึ้น
- รู้สึกไม่สบาย มีอาการวิงเวียนหัวคลื่นไส้อาเจียน การรับประทานกันชาสามารถบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียน
- ในใบกัญชามีสาร Cannabinoids หากผู้ที่มีอาการซึมเศร้าได้สารรับตัวนี้ สามารถลดพฤติกรรมรุนแรงทางด้านอารมณ์ลงได้
- ในงานวิจัยได้ค้นพบว่า สาร THC ที่อยู่ในใบกัญชาสามารถป้องกันโรคอัลไซเมอร์
- กัญชาทำให้เนื้องอกเนื้อร้ายอย่างมะเร็งหดเหี่ยวลดลงได้
- ผู้ที่นอนไม่ค่อยหลับ การรับประทานกัญชาจะช่วยให้คุณหลับสบายมากขึ้น
ข้อเสียของกัญชา
- เนื่องจากกัญชามีฤทธิ์กระตุ้นประสาท หากผู้เสพใช้ในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้ผู้เสพมีอาการมึนเมาคล้ายเหล้า เห็นภาพหล่อน หูแวว หวาดระแวง ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
- ผู้ป่วยที่มีอาการทางจิต ไม่ควรเสพกัญชา เพราะจะส่งผลให้เกิดความสับสน วิตกกังวล สมาธิสั้น จนถึงขั้นเสียการทรงตัว
- การเสพกัญชาในปริมาณและติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ส่งผลให้ร่างกายของคุณเสื่อมโทรมและอาจก่อให้เกิดโรคได้ง่ายขึ้น เช่น โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง น้ำหนักตัวลดลง ซูบผอม
- กัญชายังทำให้ปริมาณอสุจิในเพศชายลดน้อยลง เพราะมีฤทธิ์ที่ส่งผลต่อฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนของเพศชาย
- การสูบกัญชาในปริมาณ 4 ม้วน เทียบเท่ากับการสูบบุหรี่ 1 ซอง และยังมีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้มากกว่าคนสูบบุหรี่สูงถึง 5 เท่า
กัญชาเป็นยารักษาโรค/ภาวะอาการที่สามารถใช้ยากัญชาได้
6 โรค/ภาวะอาการ ที่สารกัญชาได้ประโยชน์ในการรักษา โดยมีข้อมูลวิชาการสบับสนุนชัดเจน ภาวะคลื่นไส้อาเจียนในผู้ป่วยที่ได้รับยาเคมีบำบัด
- โรคลมชักที่รักษายาก และโรคลมชักที่ดื้อต่อยารักษา
- ภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง ในผู้ป่วยปลอกประสาทเสื่อมแข็ง
- ภาวะเบื่ออาหารในผู้ป่วย AIDS ที่มีน้ำหนักน้อย
- การเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วยที่ได้รับการดูแลแบบประคับประคอง หรือผู้ป่วยระยะสุดท้ายของชีวิต
4 กลุ่มโรค / ภาวะ ที่น่าจะได้รับประโยชน์จากสารกัญชา แต่ยังต้องการงานวิจัยสนับสนุนเพิ่มเติม
- โรคพาร์กินสัน
- โรคอัลไซเมอร์
- โรคปลอกประสาทอักเสบอื่น ๆ (ที่ไม่ใช่ปลอกประสาทเสื่อมแข็ง)
- โรคอื่น ๆ ที่มีข้อมูลสนับสนุนทางวิชาการว่าน่าจะได้ประโยชน์
คนที่ไม่สามารถใช้ยากัญชาได้
- กำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
- มีความเสี่ยงสูงในการทำร้ายตนเอง
- โรคซึมเศร้า โรคอารมณ์สองขั้ว โรคจิตจากสารเสพติด โรคจิตเภท
- รับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด
- โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคตับ โรคไต ที่มีอาการรุนแรง
- มีประวัติแพ้สารสกัดกัญชา