การคิดค้น กัญชาสายพันธุ์ใหม่ เกิดขึ้นได้อย่างไร?
กัญชาสายพันธุ์ใหม่ ทุกๆปี จะมี “การสร้างสายพันธุ์กัญชา” ใหม่ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดหลายสิบสายพันธุ์ หรืออาจจะมากกว่านั้น โดยแต่ละสายพันธุ์จะผสมผสานรสชาติ กลิ่น และสรรพคุณในการออกฤทธิ์ของสองสายพันธุ์ขึ้นไปเกิดเป็นสายพันธุ์ใหม่ รสชาติและความฮิตของแต่ละสายพันธุ์เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา และผู้เพาะพันธุ์กัญชา นักปลูก หรือที่มักเรียกว่า บีทเดอร์ (breeder) สร้างสายพันธุ์ใหม่ อย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนา อนุรักษ์ หรือปรับปรุงสายพันธ์ุกัญชาตามที่ต้องการ กัญชาสายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นได้ตลอด
กัญชาเป็นหนึ่งในพืชที่มีการเพาะปลูกมากที่สุด (มนุษย์เราปลูกกัญชามาอย่างน้อย 5,000 ปีแล้ว) และผู้ปลูกสามารถควบคุมกระบวนการเพาะพันธุ์และการเจริญเติบโต เพื่อเลือกและปรับแต่งพืชให้เหมาะกับความต้องการและความจำเป็นต่างๆ เช่นบางสายพันธุ์เจริญเติบโตดีในอุณหภูมิที่ร้อน หรือ ชื้น รวมถึงแสงแดดของแต่ละโซนในโลกย่อมต่างกัน จึงต้องมีการปรับสายพันธุ์ให้เข้ากับสภาพแวดล้อมด้วย
กัญขาสายพันธุ์ใหม่ การขยายพันธุ์กัญชา 404
กัญชาสายพันธุ์ใหม่ล่าสุด ต้นกัญชาสามารถเป็นได้ทั้งต้นตัวเมียและต้นตัวผู้ ลักษณะนี้เรียกว่า dioecious มีเพศเดี่ยว (ในต้นเดียวกันหรือในตัวเดียวกัน) แยกเพศ และหาได้ยากในโลกของพืช แต่มีเพียงต้นกัญชาตัวเมียเท่านั้นที่จะสร้างดอกไม้หอมตูมที่เราทุกคนรู้จักและชื่นชอบ เมื่อใดก็ตามที่สหายเห็นทุ่งกัญชาปกคลุมด้วยดอกตูมๆ ในช่วงการทำดอก พวกมันคือต้นตัวเมียทั้งหมด ต้นกัญชาตัวเมียจะเพาะเมล็ดในขณะที่ต้นตัวผู้จะปลูกถุงละอองเรณู เมื่อตัวผู้เติบโตเต็มวัย ถุงละอองเรณูของพวกมันจะเปิดขึ้นและปล่อยละอองเรณูไปในอากาศ ซึ่งจะตกลงไปยังต้นตัวเมียที่อยู่ใกล้เคียงและผสมเกสรนั่นเอง เหมือนกับวิชาวิทยศาสตร์ในวัยเด็ก การผสมเกสร เมื่อต้นกัญชาตัวเมียผสมเกสรเติบโตเต็มที่ มันจะเพาะดอก ซึ่งถ่ายทอดพันธุกรรมของทั้งตัวเมียและตัวผู้ที่ผสมเกสร กัญชาสายพันธุ์ใหม่มีประโยชน์ เมื่อเมล็ดเหล่านั้นเติบโตขึ้น พวกมันจะเป็นสายพันธุ์ใหม่ โดยผสมผสานลักษณะ คุณสมบัติของทั้งตัวผู้และตัวเมียเข้าด้วยกัน ในป่าพืชกัญชาขยายพันธุ์ตามธรรมชาติ ต้นกัญชาตัวผู้อาจเติบโตใกล้กับต้นตัวเมีย และเมื่อมันปล่อยละอองเรณู ลมจะพัดพาละอองเรณูไปยังตัวเมีย เมื่อต้นตัวเมียโตเต็มที่แล้วตาย เมล็ดของมันจะร่วงหล่นลงดินและเติบโตเป็นพืชสายพันธุ์ใหม่ในรอบถัดไป
วิธีสร้างสายพันธุ์วัชพืชลูกผสมกัญชาสายพันธุ์ใหม่
ผลของการวิจัยกัญชาสายพันธุ์ใหม่ การเพาะพันธุ์กัญชาสามารถทำได้ทั้งในเชิงพาณิชย์หรือการปลูกที่บ้าน ในการเริ่มต้น ผู้เพาะพันธุ์กัญชาจะเลือกสายพันธุ์สองสายพันธุ์ที่ต้องการ เพื่อนำมารวมกัน โดยพิจารณาจากลักษณะต่างๆ เช่น รสชาติ กลิ่น สรรพคุณ ผลผลิต ความสะดวกในการปลูก สภาพแวดล้อมที่กัญชาสายพันธุ์นั้นๆ ต้องการรวมถึงปัจจัยอื่นๆ นักปลูกจะเลือกต้นตัวเมียสายพันธุ์หนึ่งและต้นตัวผู้อีกสายพันธุ์หนึ่งมารวมกันนักปลูกมักจะนำต้นตัวผู้และต้นตัวเมียหลายต้นมารวมกันในห้องปิดที่เรียกว่าห้องเพาะพันธุ์ เพื่อบรรจุละอองเรณูและให้แน่ใจว่าการผสมเกสรประสบความสำเร็จ การผสมเกสรสามารถเกิดขึ้นได้กลางแจ้งโดยการทำให้พืชอยู่ใกล้กัน ตราบใดที่ไม่มีละอองเรณูหลายสายพันธุ์ออกมา เมื่อพืชตัวเมียได้รับการผสมเกสรและเติบโตจนโตเต็มที่ เมล็ดของมันจะถูกเก็บและจากนั้นเมล็ดเหล่านั้นจะเติบโตเป็นพืชพันธุ์ใหม่ พืชเหล่านี้จะมียีนของทั้งต้นตัวเมียและต้นตัวผู้ และเรียกว่าลูกผสม (จากการผสมข้ามพันธุ์) หรือลูกผสมของต้นแม่ที่เรียกว่า กัญชาไฮบริด (hybrid)
ฟีโนไทป์ (Phenotype) คืออะไร?
พูดง่ายๆ ก็คือ ลักษณะที่ปรากฎออกมา เมล็ดใหม่บนต้นตัวเมียเรียกว่าฟีโนไทป์ เหมือนลูกของต้นแม่สองต้น และเป็นเหมือนพี่น้องกัน ต้นตัวเมียหนึ่งต้นสามารถผลิตเมล็ดหรือฟีโนไทป์ได้หลายสิบเมล็ด
สองสิ่งที่มีอิทธิพลต่อการสร้างโครงสร้างของพืชกัญชา: พันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม การสร้างพันธุกรรมของกัญชาเรียกอีกอย่างว่าจีโนไทป์ (genotype) คือ ยีนที่ควบคุมลักษณะของสิ่งมีชีวิต ทำหน้าที่เป็นพิมพ์เขียวสำหรับการเจริญเติบโต ช่วยให้มีความเป็นไปได้ทางกายภาพที่หลากหลาย แต่ยีนสามารถเปิดและปิดการแสดงออก เพื่อตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปหรือแตกต่างกัน
การทำงานร่วมกันระหว่างจีโนไทป์หรือพิมพ์เขียวของพืชกัญชาและสภาพแวดล้อมส่งผลต่อฟีโนไทป์ของมัน ซึ่งเป็นการแสดงออกทางกายภาพรูปลักษณ์ของรหัสพันธุกรรม ลักษณะที่สังเกตได้ในต้นกัญชา เช่น สี รูปร่าง กลิ่น รวมถึงการผลิตเรซิน สารต่างๆ ความเข้มข้นของสารที่ต่างกันในกัญชาแต่ละสายพันธุ์
งานของสายเพาะพันธุ์กัญชา และ กัญชาสายพันธุ์ใหม่ ในขณะนี้คือการปลูกเมล็ดพันธุ์สายพันธุ์ใหม่ให้เป็นพืชสายพันธุ์ที่ดีที่สุด เพื่อนำออกสู่ตลาดกัญชา ซึ่งเรียกว่าการล่าฟีโน ผู้เพาะพันธุ์จะมองหาสายพันธุ์ใหม่ที่ดีที่สุด ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วดีของคนหนึ่งอาจจะไม่ดีสำหรับอีกคนก็ได้ ไม่มีแบบแผนที่ตายตัว
ยกตัวอย่างนะ ฟีโนไทป์บางอย่างอาจมีกลิ่นหอมแต่ดูไม่ค่อยดี บางสายพันธ์ุอาจมีรสชาติและดูดีดอกสวย แต่ไม่แรงคือสารในกัญชาไม่เข้มข้นหรือเปอร์เซนต์ THC ไม่สูงอย่างที่ต้องการ การล่าฟีโนมักใช้เวลานานในการคัดเลือดเมล็ดอาจใช้เวลาหลายเดือนหรือเหยียบปี
ข้อดี ข้อเสียของกัญชา
ข้อดีของกัญชา
- หากคุณกำลังเบื่ออาหาร มีความอยากอาหารน้อยลง การรับประทานกันชาสามารถช่วยให้คุณมีความอยากอาหารมากขึ้น
- รู้สึกไม่สบาย มีอาการวิงเวียนหัวคลื่นไส้อาเจียน การรับประทานกันชาสามารถบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียน
- ในใบกัญชามีสาร Cannabinoids หากผู้ที่มีอาการซึมเศร้าได้สารรับตัวนี้ สามารถลดพฤติกรรมรุนแรงทางด้านอารมณ์ลงได้
- ในงานวิจัยได้ค้นพบว่า สาร THC ที่อยู่ในใบกัญชาสามารถป้องกันโรคอัลไซเมอร์
- กัญชาทำให้เนื้องอกเนื้อร้ายอย่างมะเร็งหดเหี่ยวลดลงได้
- ผู้ที่นอนไม่ค่อยหลับ การรับประทานกัญชาจะช่วยให้คุณหลับสบายมากขึ้น
ข้อเสียของกัญชา
- เนื่องจากกัญชามีฤทธิ์กระตุ้นประสาท หากผู้เสพใช้ในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้ผู้เสพมีอาการมึนเมาคล้ายเหล้า เห็นภาพหล่อน หูแวว หวาดระแวง ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
- ผู้ป่วยที่มีอาการทางจิต ไม่ควรเสพกัญชา เพราะจะส่งผลให้เกิดความสับสน วิตกกังวล สมาธิสั้น จนถึงขั้นเสียการทรงตัว
- การเสพกัญชาในปริมาณและติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ส่งผลให้ร่างกายของคุณเสื่อมโทรมและอาจก่อให้เกิดโรคได้ง่ายขึ้น เช่น โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง น้ำหนักตัวลดลง ซูบผอม
- กัญชายังทำให้ปริมาณอสุจิในเพศชายลดน้อยลง เพราะมีฤทธิ์ที่ส่งผลต่อฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนของเพศชาย
- การสูบกัญชาในปริมาณ 4 ม้วน เทียบเท่ากับการสูบบุหรี่ 1 ซอง และยังมีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้มากกว่าคนสูบบุหรี่สูงถึง 5 เท่า
กัญชาเป็นยารักษาโรค/ภาวะอาการที่สามารถใช้ยากัญชาได้
6 โรค/ภาวะอาการ ที่สารกัญชาได้ประโยชน์ในการรักษา โดยมีข้อมูลวิชาการสบับสนุนชัดเจน ภาวะคลื่นไส้อาเจียนในผู้ป่วยที่ได้รับยาเคมีบำบัด
- โรคลมชักที่รักษายาก และโรคลมชักที่ดื้อต่อยารักษา
- ภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง ในผู้ป่วยปลอกประสาทเสื่อมแข็ง
- ภาวะเบื่ออาหารในผู้ป่วย AIDS ที่มีน้ำหนักน้อย
- การเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วยที่ได้รับการดูแลแบบประคับประคอง หรือผู้ป่วยระยะสุดท้ายของชีวิต
4 กลุ่มโรค / ภาวะ ที่น่าจะได้รับประโยชน์จากสารกัญชา แต่ยังต้องการงานวิจัยสนับสนุนเพิ่มเติม
- โรคพาร์กินสัน
- โรคอัลไซเมอร์
- โรคปลอกประสาทอักเสบอื่น ๆ (ที่ไม่ใช่ปลอกประสาทเสื่อมแข็ง)
- โรคอื่น ๆ ที่มีข้อมูลสนับสนุนทางวิชาการว่าน่าจะได้ประโยชน์
คนที่ไม่สามารถใช้ยากัญชาได้
- กำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
- มีความเสี่ยงสูงในการทำร้ายตนเอง
- โรคซึมเศร้า โรคอารมณ์สองขั้ว โรคจิตจากสารเสพติด โรคจิตเภท
- รับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด
- โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคตับ โรคไต ที่มีอาการรุนแรง
- มีประวัติแพ้สารสกัดกัญชา